ปรับแผนดึงสหรัฐฯ-ซาอุฯ รัฐบาลได้ปรับแผนยุทธศาสตร์การทำงานเพื่อปรับตัวให้เข้ากับภาวะตลาดอย่างต่อเนื่องตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ตาม น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ททท. รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมีเจตนารมณ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวระยะไกลโดยเฉพาะจากยุโรป สหรัฐอเมริกา และตะวันออกกลางส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวระหว่างประเทศให้เป็นไปตามเป้าหมาย ปีนี้โกยรายได้1.62ล้านล.
ปรับแผนดึงสหรัฐฯ-ซาอุฯ จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้มีการปรับนโยบายการท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นโดยแบ่งเป็นตลาดสำหรับการท่องเที่ยวระยะสั้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 (มกราคม-มิถุนายน) นักท่องเที่ยวชาวยุโรปเดินทางมาไทย 2,933,660 คน 620,4 ชาวอเมริกัน 74 คนทำเช่นเดียวกัน และ 231,206 คนจากตะวันออกกลางทำเช่นเดียวกัน
จากข้อมูลย้อนหลังผู้เดินทางไกลจากสหรัฐฯ ยุโรป และตะวันออกกลางผู้มาเยือนในกลุ่มนี้มีค่าเดินทางรวมถึงระยะเวลาพำนักเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นๆ ผลสำรวจ พฤติกรรมนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2566 พบว่าผู้มาเยือนจากยุโรป ใช้จ่ายเฉลี่ย 71,718 บาทต่อคนต่อการเดินทางในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2566 (ม.ค.-มี.ค.) พักเฉลี่ย 19.40 วัน นักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางเข้าพักเฉลี่ย 16.17 วัน ใช้จ่ายเฉลี่ย 99 วันต่อคน ,17 2 บาท จากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวและเที่ยวบินต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นตลอดทั้งเดือนทำให้มีวันพักเฉลี่ย 15.26 วัน และใช้จ่ายต่อผู้โดยสาร 76,297 บาทต่อเที่ยว
เดือนเมษายนถึงตุลาคมปีนี้อีกกลุ่มเป้าหมายสำคัญคือนักท่องเที่ยวประเภทนี้ นอกจากนี้ คาดว่าในปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวทางไกลมากกว่า 7 ล้านคน คิดเป็นมูลค่า 660,000 ล้านบาท
>>>> ข่าวท่องเที่ยวไทย
