paithiaokan

ที่พักสุดชิล ในทุกๆ วันหยุด หลายคนคงกำลังมองที่สถานที่พักผ่อน

ที่พักสุดชิล

ที่พักสุดชิล ชวนเก็บกระเป๋าเตรียมไปพักชาร์ตพลังความสุข ยัง ที่พักสวย วิวสุดปัง หลากหลายแบบ ทั้งแนบชิดภูเขา ป่าเขียวขจี มองวิวสายหมอก หรือพักริมทะเลแบบผ่อนคลาย นอนเอนกาย พักใจ ให้ฟินสุดกันไปเลย

 

รวบรวมที่พักดีไซน์เก๋ ๆ ทั่วไทย ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เหมาะถ่ายรูปเช็กอินงาม ๆ และพักผ่อนนอนชิลในวันหยุดวันหยุดนี้ไปหาที่พักผ่อนนอนหลับนอกบ้านกันไหม โดยเฉพาะที่พักดีไซน์สวยเก๋ ๆ ไม่ซ้ำใคร จะไปคนเดียว ชวนคนพิเศษ

 

หรือไปกับแก๊งเพื่อนก็ตามสะดวก ถือเป็นการชาร์จพลังการทำงานให้เต็มที่ วันนี้เราเลยหยิบเอาที่พักดีไซน์เก๋ ๆ บรรยากาศสวยโดนใจมาแนะนำ รับรองไปนอนค้างแล้วไม่มีผิดหวังแน่นอน

 

ที่พักน่าเช็กอิน บรรยากาศโอบล้อมด้วยภูเขา อากาศเย็นสบาย ที่พักมีให้เลือกพัก 3 แบบ ได้แก่ ที่พักในรูปแบบรถบ้านที่แรกและที่เดียวในเขาใหญ่ แต่ละคันเว้นระยะห่างเพื่อความเป็นส่วนตัว ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

 

ที่พักในรูปแบบคอนเทนเนอร์ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบ และมีอ่างจากุซซี่ด้วย และที่พักในรูปแบบอิกลู  ตัวบ้านเป็นทรงกลมใส ภายในแอร์เย็นฉ่ำ พร้อมห้องนอน และห้องน้ำในตัว หันไปทางไหนก็เจอแต่ธรรมชาติ ท้องฟ้า ต้นไม้ ตอนกลางคืนมองเห็นดาวและพระจันทร์ด้วย

 

ที่พักสุดชิล ที่เรารวบรวมมาเพื่อทุกคน

รีวิวนี้เรารวบรวมที่พักสวยๆทุกทิศในไทย ทั้งเหนือ ใต้ ออก ตก ตอบโจทย์ทั้งสายภูเขา สายทะเล สายชิลล์ห้ามพลาด คนอยากเปลี่ยนที่นอน ไปพักผ่อน ถ่ายรูป ต้องโดนแล้วไหม เรารวบรวมข้อมูลเพื่อที่อยากจะให้ทุกได้เลือกรูแบบกาพัก่อนแบบ
ไม่จำกัน ไลฟ์ไตล์ และรูปแบบที่ทุกคนชอบ เราควรเลือกที่พักผ่อนที่สามรถทำให้เรา ได้ผ่อนคลายอย่างแท้จริง

 

1. เสม็ดนางชีบูทีค จ.พังงา ที่พักพร้อมวิวสุดปังแห่งอ่าวพังงา!! ห้องพักวิลล่า พร้อมอ่างน้ำสุดชิลล์ ที่ถ่ายรูปมุมไหนก็เด็ด ปัง อลังการ บ้าไปแล้ว! ถามคำเดียวไม่มาตอนนี้

 

ทริปภาคใต้ is back แล้วจ้าทุกคน ! เสม็ดนางชี 2 วัน 1 คืน ธรรมชาติเน้นๆ วิวจุกๆวันนี้เราจะพาไปพักที่ๆเราเคยไปแล้วครั้งนึงแต่ยังประทับใจในวิวปังๆของอ่าวพังงาแห่งนี้ไม่รู้ลืม  นั่นก็คือ “Sametnangshe Boutique” นั่นเอง

 

มารอบนี้บอกเลย ทางโรงแรมยกเครื่องใหม่หมดจ้าห้องพักวิลล่าสุดชิลที่ถ่ายรูปมุมไหนก็เด็ด พร้อมอ่างน้ำและวิวพระเอกสุดหล่อ ที่มองออกไปฟินๆได้จากห้องพักเล้ย !อีกวันตารางเที่ยวเกาะแน่นๆกับ Day Trip ของ“Sea Angel Cruise” ในโปรโมชั่นพิเศษราคา 399.-/คน เท่านั้น !!

 

2. ภูอันนา อีโค่ เฮ้าส์ จ.เชียงใหม่  โรงแรมเล็กๆใน อ.ฮอด ตกแต่งสไตล์ โคโลเนียลและใช้ Ecology System ทำให้บรรยากาศที่นี่อบอุ่นสุดๆ แถมการเดินทาง ก็สะดวกสบายสุดๆ เพราะตัวที่พัก อยู่ภายใน ตัวเมืองของอำเภอฮอดเลยแหละ

 

 

ปีนี้เราเครียดกันมาเยอะแล้ว หนีมาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติชมวิวทุ่งนาริมทะเลสาบแบบนี้ก็ดีย์แถมการเดินทางก็สะดวกสบายสุดๆ เพราะตัวที่พักอยู่ภายในตัวเมืองของอำเภอฮอดเลยแหละราคาห้องพักก็น่ารัก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและกระเป๋าตังค์ ฮ่าๆ เลิฟเลย

 

3. Mori Natural Farmstay จ.เชียงใหม่

ฟาร์มสเตย์คิ้วท์ๆกลางหุบเขา ที่อากาศดี๊ดีย์ เย็นสบายยย บ้านพักมีหลายแบบหลายสไตล์ แถมราคาน่ารักอีก! พี่ๆ เจ้าของฟาร์มก็ใจดี เป็นกันเอง เค้าปลูกผักชนิดต่างๆตามธรรมชาติเลยด้วย ที่เดียวครบ

 

 

เที่ยวเชียงใหม่ยังไง ให้เหมือนไปเที่ยวญี่ปุ่นอยากรู้ก็ตามมาดูในรีวิวนี้เล้ยยยย !ต้นปี 2020 นี้ Bliss out There ขอพามาพักผ่อนชิลล์ๆที่ “Mori Natural Farm” ฟาร์มสเตย์กลางหุบเขา ที่อากาศดี๊ดีย์ เย็นสบายยยบ้านพักมีหลายแบบหลายสไตล์ แถมราคาน่ารักอีก!พี่ๆ เจ้าของฟาร์มก็ใจดี เป็นกันเอง เค้าปลูกผักชนิดต่างๆตามธรรมชาติเลยด้วย ที่เดียวครบ จบทั้งพักผ่อน ถ่ายรูป สูดอากาศบริสุทธิ์

 

4.บ้านภูหมอก จ.เชียงใหม่ ใครอยากตื่นมาเห็นทะเลหมอกยามเช้า อากาศหลักสิบองศา พร้อมเซ็ตหมูกระทะยั่วๆ พลาดไม่ได้แล้วจ้า เรียกได้ว่ามาที่นี่ที่เดียวครบ จบแบบปังๆ แฮปปี้เว่อร์ ใช้รถส่วนตัวขึ้นมาได้ แบบไม่มีติดขัดเลยฮะ

 

ใครอยากตื่นมาเห็นทะเลหมอกยามเช้าสัมผัสอากาศหลักสิบองศา ห้ามพลาดเลยค่ะที่นี่ !!!มันดีย์งามมากกกก เรียกได้ว่ามาที่นี่ที่เดียวครบจบแบบปังๆ แฮปปี้เว่อร์ แถมขับรถเดินทางมาง่ายไม่ไกลตัวเมืองมาก ข้อมูลอื่นๆเราไปดูในรีวิวนี้กันเล้ยยย.

 

บ้านพักโซน A ราคาหลักพันแต่วิวเราให้หลักล้านนนน บรรยากาศคือดีย์มากก โซน A ที่เราพักเป็น โซนบ้านพักที่อยู่บนสุดของยอดดอยเลย มุมนี้หากมองไปด้านหน้าก็จะเป็นหมู่บ้านที่เป็นหุบเขา ส่วนหลังอื่นๆ ที่หันหลังชนกับเราก็จะเป็นวิวทะเลหมอกเด้อเลือกจองที่ชอบได้เลยนะค้าบบ แต่ใดๆก็คือสวยทุกมุมเต็มสิบแบบไม่หักกันไปเลยจ้าพี่จ๋า

 

5.สวนละไม แคมป์ จ.ระยอง ไปพักรถบ้านสุดคูล ที่เป็นเทรนด์ยอดฮิตช่วงนี้ เที่ยวฟาร์มแกะ ชมสวนผลไม้ ปาร์ตี้ BBQ หน้าบ้านง่ายๆ สไตล์แคมป์ปิ้งคาร์ แถมร้านอาหารและคาเฟ่เริ่ดๆ ให้ในสวนเลย

 

 

พักรถบ้านสุดคูล เที่ยวฟาร์มแกะ ชมสวนผลไม้ปาร์ตี้ BBQ หน้าบ้าน ง่ายๆ มุมถ่ายรูปเยอะมาก! ไปค่ะ! ที่พักก็ราคาเอาใจมนุษย์เงินเดือนสุดๆ เริ่มต้นที่ 1,650 บาท/คืน รวมอาหารเช้า การเดินทางก็ง่ายนี๊ดเดียว จะขับรถไปเองก็ได้นั่งรถทัวร์ก็ดี รายละเอียดตามนี้เลยจ้า สวนละไม ถนนบ้านบึง-แกลง (สาย344) ต.ป่ายุบใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง

 

6.สวนป่าดอยบ่อหลวง จ.เชียงใหม่  จะมีอะไรขึ้นกล้องไปกว่าบ้านไม้ หลังคาทรงสามเหลี่ยมในป่าสนอีก? ถ่ายรูปออกมานึกว่าอยู่สวิตเซอร์แลนด์! แถมราคาต่อคืน ถือว่าน่ารักเลยแหละ

 

 

7 วิธีพักผ่อนที่ร่างกายและจิตใจต้องการ แต่คุณอาจไม่รู้

ทำงานเหนื่อยมาทั้งสัปดาห์ พอถึงวันหยุดทั้งทีเลยนอนอืดอยู่บนโซฟา สั่งแกร๊บ เปิดเน็ตฟลิกซ์ดูจนตาแฉะ จากนั้นก็เข้านอนหลับยาว 7-8 ชั่วโมง แต่เอ๊ะทำไม… พอตื่นมาวันจันทร์แล้วก็ยังรู้สึกเหนื่อยล้า เหมือนกับว่าเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาไม่ได้ชาร์ตแบตให้สดใสขึ้นเลยถ้าสิ่งเหล่านี้เคยเกิดขึ้นกับคุณ บางทีคุณอาจกำลังเข้าใจผิด คิดว่าการนอนคือการพักผ่อนทั้งหมดที่คุณต้องการ… แต่จริงๆ แล้ว มันไม่ใช่!

 

Saundra Dalton-Smith แพทย์ที่มีประสบการณ์การทำงานมายาวนานกว่า 20 ปี และผู้เขียนหนังสือขายดี ‘Sacred Rest’ ได้กล่าวไว้ใน TED Talk อันลือลั่นของเธอว่า จริงๆ แล้ว การนอนเป็นเพียงการพักผ่อนวิธีหนึ่งเท่านั้น แต่คนเรายังต้องการดูแลตัวเองด้วยการพักผ่อนที่แตกต่างกันอีก 7 ประเภทด้วยกัน เพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้ฟื้นฟูกลับมากระฉับกระเฉงอีกครั้ง

 

1. พักผ่อนทางกาย (Physical Rest)

เปาโล คูเอลโญ (Paulo Coelho) นักเขียนชื่อดังกล่าวไว้ในหนังสือ ‘The Archer’ ของเขาว่า ร่างกายก็เหมือนคันธนูที่ไม่สามารถถูกหยิบจับมาใช้งานได้ตลอดเวลา แน่นอน การพักผ่อนทางกายวิธีแรกก็คือ การปิดสวิทช์ร่างกาย​ หรือการนอนหลับนั่นเอง

แต่นอกเหนือจากการนอนแล้ว ร่างกายยังต้องการการผ่อนคลายในแบบอื่นด้วย เช่น โยคะ การยืดเหยียด และการนวด เป็นต้น โดยเราควรให้รางวัลแก่ร่างกายอันเหนื่อยล้าของเราด้วยวิธีเหล่านี้ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์

2. พักผ่อนทางจิตใจ (Mental Rest)

หลายคนนอนเต็มอิ่มมา 8 ชั่วโมง พอถึงออฟฟิศก็จัดกาแฟแก้วใหญ่ แต่ตลอดทั้งวันกลับป้ำๆ เป๋อๆ ลืมโน่นลืมนี่ ฟังอ่านอะไรก็ไม่แตก แล้วก็ทำผิดพลาดไปหมด แถมพอถึงเวลานอนก็ยังมีเสียงความคิดของตัวเองดังในหัวเต็มไปหมด… หากใครประสบกับปัญหาเหล่านี้ อาจเป็นเพราะจิตใจของคุณไม่ได้พักผ่อนเพียงพอ

 

การพักผ่อนทางจิตใจที่ดีที่สุดคือการเข้าหาธรรมชาติ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณต้องลาออกไปอยู่ป่าอยู่เขา หรือลาพักร้อนไปเที่ยวต่างจังหวัดทุกเดือน (ซึ่งอาจทำให้คุณถูกไล่ออก) เพราะในระหว่างวันทำงาน คุณก็สามารถพักจิตใจได้ง่ายๆ

 

ด้วยการละจากการงานสัก 10 นาที ในทุกๆ 2 ชั่วโมง แล้วอาจออกไปเดินเล่น กินขนม สูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ เพื่อทำสมาธิ หรือถ้ามีสวนสาธารณะอยู่ใกล้ๆ ที่ทำงาน คุณก็อาจออกไปเดินยืดเส้นยืดสายสักพัก มองดูต้นไม้เขียวๆ ฟ้าใสๆ … เชื่อเถอะว่า พอกลับมาทำงาน สมองของคุณจะปลอดโปร่งโล่งกว่าเดิม

 

3. พักประสาทสัมผัส (Sensory Rest)

ทุกวันนี้ เราต่างรายล้อมด้วยแสงไฟจากจอคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ แท็บเลต ไหนจะเสียงดนตรีดังสนั่นจากคลิปที่คนข้างๆ เปิดดู และเสียงของเครื่องมือสื่อสารเหล่านั้นที่ดังปิ๊งป่องๆ ทั้งวัน จนแทบหาความสงบไม่ได้ แล้วเชื่อไหมว่าแสงจ้าและเสียงน่ารำคาญพวกนั้นทำให้เราเหนื่อยล้า

 

หากคุณยังจำเป็นต้องใช้เครื่องมือเหล่านั้นในการทำงาน อย่างน้อยๆ ขอให้แน่ใจว่าคุณปิดสวิทช์ทุกอย่างก่อนจะเข้านอน และถ้าเป็นไปได้ ในระหว่างวัน คุณควรมีช่วงเวลาที่ตัวคุณเองได้นั่งนิ่งๆ พักสายตาจากแสงจ้า และพักหูจากเสียงต่างๆ

 

4. พักผ่อนอย่างสร้างสรรค์ (Creative Rest)

คนในแวดวงความคิดสร้างสรรค์ต้องอ่านข้อนี้ให้ดี เวลาที่คุณคิดงานไม่ออก คำแนะนำก็คือ อย่ามัวแต่นั่งอยู่กับโต๊ะและเขกหัวตัวเองไปมา คุณควรทิ้งโทรศัพท์ไว้แล้วออกไปเดินเล่น เพราะอย่างที่ Erling Kagge เขียนไว้ในหนังสือ ‘Walking’ อัจฉริยะ นักคิดนักเขียน และผู้ที่ประสบความสำเร็จหลายคน เกิดความคิดดีๆ

 

ตอนที่ออกไปเดินทั้งนั้น คุณยังอาจเลือกพักสมองด้วยการฟังเพลงที่คุณชอบ ดูหนังหรืออ่านหนังสือที่สามารถเป็นแรงบันดาลใจได้ หรือใครที่ชอบงานศิลปะ การออกไปเสพศิลปะดีๆ หรือแม้แต่หางานศิลปะที่คุณชอบติดไว้ในออฟฟิศ ก็เป็นอีกวิธีในการพักผ่อนอย่างสร้างสรรค์.

 

5. พักผ่อนทางอารมณ์ (Emotional Rest)
การพักผ่อนทางอารมณ์จำเป็นมากสำหรับคนแสนดีที่ใครขออะไรก็ “เยสๆๆ” ทำให้ได้หมดทุกอย่าง ทั้งๆ ที่บางอย่างตัวเองก็ไม่ได้อยากตกลงทำให้ แต่เพราะปฏิเสธคนไม่เป็นก็เลยต้องแบกรับทุกอย่างเอาไว้กับตัว แล้วลึกๆ ก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าตัวเองถูกคนอื่นเอาเปรียบ

คุณควรเรียนรู้ที่จะปฏิเสธคนอื่นบ้าง แล้วก็ไม่ใช่เรื่องผิดที่คุณจะพูดความจริงออกไป อย่างเวลาที่มีคนถามคุณว่า “เป็นไงบ้าง โอเคไหม” ถ้าคุณไม่ได้รู้สึกโอเคเลย ก็ตอบไปตามตรงว่า “ไม่ค่อยโอเคเท่าไร” แล้วเมื่อมีโอกาสก็บอกออกไปเลยว่าอะไรที่ทำให้คุณไม่โอเค

 

6. พักผ่อนจากสังคม (Social Rest)

คล้ายๆ กับการพักผ่อนทางอารมณ์ เพราะบางครั้ง ความสัมพันธ์ที่เปราะบางและความคาดหวังจากคนรอบข้างก็ทำให้คุณเหนื่อยล้าได้เหมือนกัน สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ ลองลิสต์ว่ามีใครบ้างที่คุณใช้เวลาอยู่ด้วยได้อย่างสบายใจ คนที่คอยให้กำลังใจในสิ่งที่คุณทำ

เสมอ คนที่ง่ายๆ สบายๆ ไม่คาดหวังอะไรจากคุณ แล้วพยายามใช้เวลากับคนเหล่านั้นให้มากกว่าคนที่เรียกร้องต้องการอะไรจากตัวคุณตลอดเวลา เพราะอย่าลืมว่าผู้เป็นมิตรที่แท้จริงไม่สนใจหรอกว่าคุณจะเป็นใครและทำอะไรให้เขาได้บ้าง

7. พักผ่อนจิตวิญญาณ (Spiritual Rest)

หลายคนมีหน้าที่การงานที่ประสบความสำเร็จ มีเงินใช้เหลือเฟือ นอนเต็มอิ่ม และมีเวลาออกไปพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ แต่… ยังคงรู้สึกราวกับว่าชีวิตว่างโหวง ไม่เติมเต็ม

 

Dalton-Smith เชื่อว่าจิ๊กซอว์ที่หายไปคือ ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับสิ่งอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากตัวเรา เธอแนะนำให้เราออกไปทำอะไรเพื่อคนอื่น เช่น เป็นอาสาสมัครทำอาหารให้ผู้ยากไร้ อาสาพาสุนัขในสถานพักพิงเดินเล่น ฯลฯ หรือสำหรับบางคน การหันเข้าหาศรัทธาทางศาสนาที่ช่วยให้จิตใจสงบ ก็อาจเป็นการพักผ่อนทางจิตวิญญาณได้เช่นกัน

 

รู้จักวิธีการพักผ่อนทั้ง 7 อย่างแล้ว วันหยุดคราวหน้าก็อย่าลืมเลือกใช้เวลาพักผ่อนให้ครบถ้วนทั้งทางร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ หรือหากคุณลองคำนวณแล้วว่าตัวเองต้องการการพักผ่อนแบบไหนมากเป็นพิเศษ ก็สามารถจัดสรรให้เหมาะสมได้ แล้วลองสังเกตดูว่าคุณรู้สึกมีพลังในการทำงานและใช้ชีวิตมากขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่า